รับข่าวสารล่าสุดจาก Instagram

เริ่มหาแรงบันดาลใจผ่านประกาศ เคล็ดลับ และเรื่องราวความสำเร็จบนบล็อกของเรา

แรงบันดาลใจ

9 กุมภาพันธ์ 2022

พบกับผู้ก่อตั้งแบรนด์ผู้สร้างสายสัมพันธ์แสนล้ำค่ากับแฟนๆ

โดย: ทีม Instagram Business

ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

เป็นเวลา 8 ปีที่แบรนด์ Oh, Lolly Day! (@ohlollyday.official) แบรนด์สัญชาติเกาหลีที่ก่อตั้งโดย Shinhu Park (@lollyhu) ได้ยึดถือคติที่จะเพิ่มความสุขในชีวิตของผู้คน เครื่องเขียนสีสันสดใสมากมายและสินค้าไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ แก้ว หรือสมุดจดบันทึกเพื่อตั้งเป้าหมายในชีวิตและสร้างอุปนิสัยที่ดี ล้วนมีไว้สำหรับทุกคนที่หมายมั่นจะเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุด

"ฉันอยากให้แบรนด์คงภาพลักษณ์ที่เป็นมิตร และเป็นแบรนด์แรกที่คุณนึกถึงตอนที่มีความสุขหรือต้องการความสบายใจ" Shinhu กล่าว หัวใจหลักของเป้าหมายนี้คือการสร้างความสัมพันธ์อันน่าประทับใจกับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเป้าหมาย

คำบรรยาย: Shinhu แชร์ 3 เคล็ดลับสุดยอดของเธอที่จะสร้างความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างแบรนด์ของคุณและกลุ่มเป้าหมาย

แต่คุณจะถ่ายทอดคุณค่าของแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมาย และจะทำให้พวกเขาทุ่มเทเงินและเวลาเพื่อแลกกับสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างไร สำหรับ Shinhu และ Oh, Lolly Day! แล้ว ความภักดีต่อแบรนด์คือตัวแปรสำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง

Oh, Lolly Day! ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่มีแฟนๆ ผู้ภักดีมากมาย แล้วความสัมพันธ์นี้เริ่มต้นได้อย่างไร

ในช่วงแรก ผู้ติดตามบัญชี Instagram ส่วนตัวของฉันกลายมาเป็นผู้บริโภคของแบรนด์เองค่ะ ดูเหมือนว่าความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์จะมีผลมาก และฉันก็ใช้แฮชแท็กบน Instagram ได้ดี ฉันอัพโหลดรูปภาพอาหารที่ทำเองและใช้แฮชแท็ก #LollyRestaurant หรือถ่ายภาพเครื่องดื่มที่ชงเองและอัพโหลดพร้อมแฮชแท็ก #LollyTeaRoom ถ้าคุณชื่นชอบชีวิตของผู้ที่นำแบรนด์แล้ว คุณจะเข้าอกเข้าใจทิศทางของแบรนด์นั้นมากยิ่งขึ้น ฉันมองว่าเมื่อผู้คนที่ชอบทั้งตัวเจ้าของและแบรนด์มาอยู่ร่วมกัน ก็จะเกิดการส่งเสริม ทำให้พวกเขามีแนวโน้มกลายมาเป็นแฟนตัวยงมากขึ้นได้

มาตรฐานอะไรที่คุณสร้างและสื่อสารกับผู้บริโภค

ก่อนอื่นฉันแบ่งกลุ่มแฟนออกเป็น 3 ระดับ ก็คือกลุ่มคนที่รู้เกี่ยวกับ Oh, Lolly Day! เท่านั้น กลุ่มคนที่ถูกใจแต่ไม่ซื้อ และสุดท้ายคือกลุ่มคนที่ติดตามและซื้อสินค้าของเราไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เราเริ่มลองวิธีใหม่กับแฟนๆ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องสร้างความใกล้ชิดและเชื่อมโยงกับแฟนกลุ่มสุดท้ายมากขึ้น จากที่เราวิเคราะห์มา ลักษณะเฉพาะของแฟนที่ติดตามแบรนด์ Oh, Lolly Day! จะไม่ค่อยโต้ตอบและแสดงออกเท่าไหร่ ตลอดปีที่ผ่านมานี้ ฉันจึงลองใช้โปรเจ็กต์ที่หลากหลายเพื่อสื่อสารกับผู้คนเหล่านี้อย่างมีส่วนร่วม ตัวอย่างก็มี "35 Days Habit Challenge" ซึ่งเป็นการโปรโมทแฮชแท็กที่ผู้คนสามารถมีส่วนร่วมได้บน Instagram และ “Happier Letter” ที่เล่าเรื่องราวเบื้องลึกของ Oh, Lolly Day! ใน "Happy Letter" รูปแบบจดหมายข่าว ก็ยังมีกล่องข้อความให้คุณส่งจดหมายหาเราโดยตรงได้ด้วยค่ะ

ผลลัพธ์เป็นอย่างไร

รีวิวด้านคุณภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งไม่ใช่การรีวิวทั่วไปอย่าง "น่ารักจังเลย ชอบจัง" แต่เป็นรีวิวเกี่ยวกับความสุขที่ Oh, Lolly Day! พูดถึงอยู่เสมอ ฉันขอเล่ารีวิวหนึ่งที่เราประทับใจนะคะ มีคนได้รับสินค้าที่ช่วยสร้างอุปนิสัยเป็นของขวัญและลองใช้ ผ่านไปหนึ่งถึงสองเดือน เขาก็รู้สึกว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนไปจริงๆ ฉันได้รับจดหมายยาวฉบับหนึ่ง แล้วรีวิวประเภทนี้ก็เพิ่มเป็นกองมากขึ้นเรื่อยๆ เราขอยืนยันได้เลยว่ากิจกรรมของเราไม่ได้ไร้ความหมายแน่นอน

การสร้างเนื้อหาสนุกๆ พร้อมกับพนักงานของคุณทำให้ผู้คนนึกได้ว่าธุรกิจของคุณมีคนจริงๆ ทำงานอยู่เบื้องหลัง โดย Shinhu ได้อธิบายวิธีที่คุณสามารถแสดงถึงการทำงานเป็นทีมไว้ 3 วิธี ที่จะช่วยขับเคลื่อนแบรนด์ของคุณไปข้างหน้า

การทำการตลาดสำหรับกลุ่มแฟนที่ภักดีมีข้อเสียบ้างไหม

จากมุมมองของธุรกิจแล้ว การทำการตลาดสำหรับกลุ่มแฟนที่ภักดีไม่ได้สร้างยอดขายโดยตรง เพราะเราไม่ได้ลงทุนในกลุ่มผู้บริโภครายใหม่ แต่ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูด ก็สามารถสร้างการเติบโตจากภายนอกได้แน่นอน ฉันคิดว่าตอนนี้เป็นขั้นของการลงทุนในกลุ่มแฟนที่ภักดี และเพื่อทำให้แบรนด์เติบโตอย่างมั่นคง และผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดี ฉันจึงเชื่อว่าการลงทุนในขั้นนี้สำคัญมาก เราอยากเติบโตไปพร้อมกับผู้บริโภคอย่างช้าๆ แต่หนักแน่นค่ะ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ฉันยิ่งแน่ใจในแนวคิดนี้มากขึ้น การมีอยู่ของแฟนๆ ช่วยชี้ชะตาแบรนด์ได้ แต่อย่างไรเราก็วางแผนจะขยายขอบเขตการกำหนดเป้าหมายเพื่อให้แฟนๆ ที่ไม่ได้ติดตามแบรนด์ตลอดไม่รู้สึกถูกละเลย และเปิดรับลูกค้ารายใหม่เข้ามา “แคมเปญ Be Happier” ที่สื่อความหมายว่าความสุขมีอยู่ทุกที่เหมือนใบโคลเวอร์ 3 แฉกก็เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดริเริ่มนี้

คุณช่วยยกตัวอย่างที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลเชิงบวกที่แบรนด์ได้รับจากแฟนๆ ที่ภักดีเหล่านี้ได้ไหม

ตอนที่บริษัทอื่นลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของฉันไปเมื่อไม่นานมานี้ ฉันได้รับความช่วยเหลือจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม มีคอมเมนต์มากมายเข้ามาขอให้ระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนการฟ้องร้องคดี ฉันจึงมีความกล้าที่จะเริ่มระดมทุน และก็ประสบความสำเร็จเกินคาด เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าพลังของแฟนๆ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กอยู่รอด ดูเหมือนว่าตอนนี้ผู้บริโภคหลายคนจะมอง Oh, Lolly Day! เป็นแบรนด์ที่แฟนๆ รัก และเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับแฟนคลับอย่างมาก ซึ่งนั่นทำให้ฉันมีความสุขค่ะ

คุณมีคำแนะนำเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหาบน Instagram สำหรับธุรกิจขนาดเล็กไหม

ฉันสร้างโพสต์แต่ละโพสต์ให้เป็นโฆษณา และอัพโหลดด้วยความถี่ถ้วน เราเขียนข้อความให้คล้ายกับข้อความโฆษณา และให้พนักงาน 3 คนเป็นคนรับรอง และฉันก็เลือกภาพที่ชัดเจนไม่เบลอด้วยค่ะ เป้าหมายสูงสุดก็คือการทำให้ผู้ชมรับชมโพสต์นานขึ้น Oh, Lolly Day! จึงใช้ฟีเจอร์บน Instagram ที่หลากหลาย เช่น สตอรี่ คำแนะนำ และวิดีโอ เราใช้สติกเกอร์พิเศษในสตอรี่เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกขอบคุณขณะอ่านรีวิวของลูกค้า หลังทำสติกเกอร์ จำนวนการกล่าวถึงในสตอรี่ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราใช้ฟีเจอร์คำแนะนำเมื่อมีเนื้อหาที่เราต้องการเน้น แฟนๆ มักจะสงสัยว่าคนที่ผลิตสินค้าใช้งานสินค้านั้นอย่างไร เราก็เลยมีรีวิวสินค้าจากพนักงานค่ะ

ค้นพบสินค้าได้ง่ายและรวดเร็วในร้านค้าบน Instagram ของคุณ Shinhu บรรยายวิธีสร้างคอลเลกชั่นเพื่อจัดสินค้าของคุณให้เป็นระเบียบ

ธุรกิจของคุณมีแผนจะทำอะไรต่อ

ความใฝ่ฝันของเราคือการเป็นบริษัทที่ยืนยง พันธกิจของเราที่เขียนไว้บนบอร์ดวิสัยทัศน์เมื่อต้นปีนี้ก็คือ "ทำให้ชีวิตของผู้คนมีความสุขขึ้นด้วย Oh, Lolly Day!" พวกเราให้ความสำคัญกับความสุขมากค่ะ เราไม่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนบริษัทขนาดใหญ่ แต่เราต้องการเติบโตไปอย่างช้าๆ และหนักแน่นมากกว่า

ต้องการแรงบันดาลใจเพิ่มเติมใช่หรือไม่ อ่านบทสัมภาษณ์ผู้อำนวยการชิ้นงานโฆษณา @karenxcheng เกี่ยวกับวิธีที่ธุรกิจสามารถร่วมมือกับครีเอเตอร์เพื่อยกระดับเนื้อหาไปอีกขั้น หรือดูว่า Mulungú (@usemulungu) โดย CEO @luciellenassis ได้สร้างคอมมูนิตี้บน Instagram ที่ให้ความรู้สึกเหมือน “ครอบครัวเสมือนจริง” ได้อย่างไร

โดย: ทีม Instagram Business

ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย