รับข่าวสารล่าสุดจาก Instagram
เริ่มหาแรงบันดาลใจผ่านประกาศ เคล็ดลับ และเรื่องราวความสำเร็จบนบล็อกของเรา
แรงบันดาลใจ, เรื่องราวความสำเร็จ
ภาพ เสียง และสื่อบนมือถือ
โดย: ทีม Instagram Business
ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย
ในช่วงปีที่ผ่านมา เราได้เห็นปริมาณการรับชมวิดีโอบนมือถือพุ่งขึ้นอย่างมหาศาลทั่วโลก รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และดูเหมือนว่าความนิยมที่มีต่อวิดีโอบนมือถือจะไม่เสื่อมคลายลงง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกว่าหนึ่งในสามของคนที่ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ และแคนาดาคาดว่าจะดูวิดีโอบนสมาร์ทโฟนมากขึ้นไปอีกในอนาคต โดยเฉพาะใน Instagram ซึ่ง 45% ของคนที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าตนจะดูวิดีโอบนมือถือมากขึ้นไปอีกในอนาคตด้วยเช่นกัน1
ผู้คนใช้เวลาในการดูวิดีโอใน Instagram เพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ในขณะเดียวกันจำนวนวิดีโอที่สร้างบนแพลตฟอร์มนี้ในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าอย่างต่อเนื่องทุกปี2 ด้วยรูปแบบวิดีโอบนมือถืออันสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นใหม่อย่าง Instagram Stories ตอนนี้นักการตลาดจึงมีโอกาสที่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแบบทุกที่ทุกเวลาหรือในช่วงเวลาสำคัญก็ตาม
และเพื่อหาคำตอบที่แน่ชัดว่าอนาคตของวิดีโอบนมือถือจะมีทิศทางไปทางใด เราจึงร่วมมือกับทีมข้อมูลเชิงลึกด้านการโฆษณาและผู้บริโภค (Facebook IQ) เพื่อค้นหาว่าการรับชมวิดีโอบนมือถือเปลี่ยนวิธีการที่เราจับจ่าย แชร์ และเชื่อมโยงกันอย่างไร
ในขณะที่การรับชมวิดีโอบนมือถือที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการรับชมความบันเทิงทุกที่ทุกเวลา แต่ประสบการณ์ที่ไม่หยุดนิ่งนี้ยังมีอะไรมากกว่าแค่ความสะดวกอย่างเดียวเท่านั้น ผู้ใช้ Instagram ทั่วโลกต่างก็ถูกดึงดูดโดยวิดีโอบนมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะวิดีโอเหล่านี้เชื่อมโยงพวกเขาในชุมชนแห่งการมีส่วนร่วม และนำเสนอเนื้อหาที่ให้ความรู้สึกเข้าถึงและเกี่ยวข้อง
วิดีโอบนมือถือใน Instagram มีแนวโน้มที่จะช่วยให้ผู้คนรู้สึกเชื่อมโยงกับเพื่อนและครอบครัวมากกว่าทีวีแบบเดิมถึง 2.9 เท่า และมีแนวโน้มมากกว่า 1.9 เท่าที่จะจุดประกายการสนทนา กล่าวคือ Instagram เป็นตัวเร่งที่ช่วยให้ผู้คนเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ที่สำคัญที่สุด แต่ปฏิสัมพันธ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาออกไปข้างนอกเท่านั้น เพราะยังเกิดขึ้นขณะอยู่บ้านด้วยเช่นกัน อันที่จริงแล้ว บ้านเป็นที่ที่คนเราจะรับชมวิดีโอบนมือถือมากที่สุดด้วยซ้ำ1
และความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะที่เราดูวิดีโอบนมือถือก็มีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในประสบการณ์นี้
ไม่น่าแปลกใจว่าคนที่ดูวิดีโอบนมือถือใน Instagram บอกว่ามีอารมณ์ในเชิงบวกในระดับที่สูงขึ้น บางคนบอกว่าดูวิดีโอแล้วรู้สึกมีความสุขด้วยซ้ำ และคนกลุ่มเดียวกันที่สำรวจยังบอกด้วยว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับแรงบันดาลใจจากวิดีโอบนมือถือใน Instagram มากกว่าทีวีถึง 2.4 เท่า และมีแนวโน้มมากกว่า 1.7 เท่าที่จะรู้สึกตื่นเต้น1
แต่สิ่งที่จุดประกายให้เกิดความรู้สึกในเชิงบวกนี้ไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาวิดีโอบนมือถือใน Instagram เท่านั้น เพราะแหล่งที่มาของเนื้อหาก็ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจได้เช่นกัน
แบรนด์ออกกำลังกายจากออสเตรเลีย Kayla Itsines (@kayla_itsines) ต้องการกระตุ้นการรับรู้แอพออกกำลังกายใหม่ชื่อ “Sweat” และมองหาพื้นที่เล็กๆ ที่จะช่วยในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 18-42 ปีในสหรัฐอเมริกา และเมื่อร่วมมือกับ Facebook Creative Shop แบรนด์ Kayla Itsines ก็ทำได้ตามเป้าหมาย
โดยแบรนด์ได้สร้างแคมเปญวิดีโอตลอดเส้นทางการซื้อที่ปรับให้เหมาะกับมือถือ และสื่อข้อความง่ายๆ ว่า “ฟิตร่างกาย ทุกที่ ทุกเวลา” ที่แสดงทั่วทั้ง Facebook และ Instagram ด้วยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างถึง 6.4 ล้านคน แคมเปญช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ได้อย่างน่าประทับใจถึง 21 จุด และเพิ่มการเข้าถึงของแบรนด์ได้ 6 เท่า (เทียบกับค่าปกติของแคมเปญตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก) ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงแสดงถึงพลังของการใช้วิดีโอบนมือถือ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าแบรนด์สามารถทำอะไรได้มากมายด้วย Facebook และ Instagram
ด้วยความต้องการที่จะกระตุ้นยอดขายในร้านค้าให้แก่ผลิตภัณฑ์เด่นอย่าง Gatorade Thirst Quencher แบรนด์เครื่องดื่มหัวก้าวหน้า Gatorade (@gatorade) จึงจับมือกับพาร์ทเนอร์ที่ Facebook ซึ่งได้แก่เอเจนซีสื่อโฆษณา OMD และเอเจนซีดิจิทัล VML เพื่อสร้างสรรค์โฆษณาวิดีโอทรงพลังสำหรับชุมชน Instagram และ Facebook โดยเฉพาะ
ด้วยการใช้ประโยชน์จากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองใน Instagram และ Facebook แคมเปญที่เน้นมือถือเป็นหลักนี้มุ่งเน้นกลยุทธ์ไปที่ผู้คนอายุ 18 ปีขึ้นไป และใช้ภาพที่สะดุดตาพร้อมการสร้างแบรนด์อย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ผลลัพธ์ก็คือ ทีม Gatorade สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าครัวเรือนได้เพิ่มขึ้น 3.29% มียอดขายระยะสั้นเพิ่มขึ้น 4.62% (วัดโดยการวิเคราะห์แคมเปญ ROI ของ Oracle Data Cloud)
ในแคมเปญโฆษณาสุดสร้างสรรค์ชิ้นแรกบน Instagram Stories ผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ ASOS (@asos) มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการรับรู้แบรนด์และการมีส่วนร่วมในสหรัฐอเมริกา (และสหราชอาณาจักร) ในหมู่กลุ่มเป้าหมายที่มีความเคลื่อนไหวสูงอย่างวัยรุ่นที่สนใจแฟชั่น
ด้วยการผสมผสานเทคนิคการถ่ายทำขั้นสูงและสไตล์การถ่ายภาพแฟชั่นเข้ากับวิดีโอบนมือถือ แบรนด์ที่เน้นมือถือเป็นหลักนี้จึงสามารถสร้างสรรค์ชุดโฆษณาที่แยบยลซึ่งจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มเป้าหมายคนหนุ่มสาวยุคดิจิทัลในประเทศของตนโดยเฉพาะ แทนที่จะกระหน่ำด้วยคำโฆษณาชวนซื้อหรือสินค้าแค่บางรายการ แคมเปญนี้กลับเน้นไปที่การรับรู้แบรนด์และการสร้างความบันเทิงให้ผู้ใช้ Instagram ในที่ที่พวกเขาคุ้นเคยที่สุด ซึ่งส่งผลให้การรับรู้แบรนด์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 7 จุด (และการจดจำโฆษณาในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 14 จุด)
ไม่ว่าจากที่ทำงานมาบ้านหรือที่ไหนก็ตาม ผู้คนต่างก็หันมารับชมวิดีโอในอุปกรณ์มือถือมากขึ้นเรื่อยๆ ในสถานที่ต่างๆ และด้วยวิธีการอันหลากหลาย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับธุรกิจบน Instagram ที่จะแชร์เรื่องราวของตนให้โลกได้รู้
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมว่าแบรนด์ของคุณจะใช้ประโยชน์จากเทรนด์การรับชมวิดีโอบนมือถือที่กำลังมาแรงนี้ได้อย่างไร ลองดูบทความเต็มใน Facebook IQ
โดย: ทีม Instagram Business
ซานฟรานซิสโก แคลิฟอร์เนีย