YUEDPAO
แบรนด์เครื่องแต่งกายสัญชาติไทยทดสอบกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายบน Instagram และพบว่าการแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันตามลูกค้าซึ่งได้มาจากแคมเปญ Messenger ทำให้การสนทนาเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง
Yuedpao (ยืดเปล่า) เป็นแบรนด์แฟชั่นของไทยที่จำหน่ายเสื้อผ้าทันสมัยสำหรับทั้งชายและหญิง รวมถึงเสื้อยืด เสื้อฮู้ด เสื้อครอป และชุดเดรส แบรนด์นี้มักเผยแพร่โฆษณาที่คลิกไปยัง Messenger เพื่อกระตุ้นยอดขาย และก็ประสบความสำเร็จแล้วด้วยกลยุทธ์การซื้อขายผ่านแชท
การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นบน Instagram สำหรับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน
การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นในบรรดากลุ่มเป้าหมายอายุ 18-24 ปีสำหรับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน
การสนทนาที่เพิ่มขึ้นจากโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน
ต้นทุนต่อข้อความที่ลดลงสำหรับโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน
Yuedpao มีผู้ติดตามจำนวนมากบน Instagram และต้องการรู้ว่าแบรนด์จะสามารถดึงชุมชนบน Instagram ให้มีส่วนร่วมพร้อมกับกระตุ้นการซื้อผ่านการค้าแบบอาศัยการสนทนาได้เหมือนกับที่ทำบน Facebook และ Messenger หรือไม่
โซลูชั่น
ทดสอบการกำหนดเป้าหมาย
Yuedpao ตั้งใจจะวัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การกำหนดเป้าหมายที่ต่างกันโดยใช้การทดสอบ A/B แบบ 2 เซลล์ เพื่อให้เข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการเข้าถึงนักช้อปบน Instagram
เซลล์แรกนำทั้งโฆษณาที่คลิกไปยัง Messenger และโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct มารวมกัน โดยแสดงโฆษณาแก่กลุ่มเป้าหมายแบบกว้างตามปกติของแบรนด์ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยและอายุระหว่าง 20-65 ปี เซลล์ที่สองมีการผสมแคมเปญแบบเดียวกัน แต่กำหนดเป้าหมายโฆษณาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันตามลูกค้าที่ได้ซื้อเสื้อผ้าของ Yuedpao ไปก่อนหน้านี้หลังจากแชทกับแบรนด์ผ่าน Messenger
โฆษณาซึ่งแสดงคำว่า "ได้รับการสนับสนุน" แสดงภาพนายแบบนางแบบสวมเสื้อผ้าของ Yuedpao โดยเมื่อมีคนคลิก โฆษณานี้จะนำไปยังแชท Instagram Direct ซึ่งผู้คนสามารถสั่งซื้อเสื้อผ้าที่ต้องการ และทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ได้ภายในแชทนั้น
ระหว่างวันที่ 17-28 สิงหาคม 2022 แบรนด์ Yuedpao พบว่าแคมเปญที่แสดงต่อกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันมีประสิทธิภาพดีกว่าแคมเปญที่แสดงต่อกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง โดยผลลัพธ์มีดังนี้
- การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นบน Instagram สูงขึ้น 59% สำหรับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เมื่อเทียบกับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง
- การเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น 1.4 เท่าในบรรดากลุ่มเป้าหมายอายุ 18-24 ปีสำหรับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เมื่อเทียบกับแคมเปญแบบรวมที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง
- การสนทนาเพิ่มขึ้น 60% จากโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เมื่อเทียบกับโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง
- ต้นทุนต่อข้อความลดลง 14% สำหรับโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เมื่อเทียบกับโฆษณาที่คลิกไปยัง Instagram Direct ซึ่งกำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง